WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฮือฮา รถหุ่นยนต์"นาซา"ฝาก"รอยเท้าไว้บนดาวอังคาร"เลียนแบบ"นีล อาร์มสตรอง"เหยียบดวงจันทร์

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:05 น


A Curious footprint: Nasa's rover left a print on the red plant that is eerily similar to Neil Armstrong's first step on the moon

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ว่า เกิดเหตุฮือฮา หลังจากนาซาได้ค้นพบว่า รถหุ่นยนต์อวกาศ"คิวริออสซิตี้"ของนาซา ได้ทิ้ง"รอยล้อ"ของตัวเองไว้บนดาวอังคารอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งคล้ายเหมือนนีล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศนาซา ได้ทิ้งรอยเท้าไว้บนดวงจันทร์ โดยภาพดังกล่าวถูกบันทึกโดยกล้องด้านขวาของรถหุ่นยนต์อวกาศคิวริออสซิตี้ ในวันที่ 57 ของดาวอังคาร และรถหุ่นยนต์ฯนี้ จะยังคงตรวจสอบสถานที่ต่าง ๆ บนดาวอังคารจนถึงบริเวณปล่องภูเขาไฟเกล ซึ่งยานจะบันทึกภาพและส่งรูปแก่นาซาตลอดเวลา




One of the footprints left on the lunar surface by Neil Armstrong

นอกจากนี้ นาซาจะใช้ระบบค้นหาตำแหน่ง"Foursqure"เป็นเครื่องมือช่วยหาตำแหน่งใหม่ ๆ ร่วมกับรถหุ่นยนต์ฯนี้ด้วย โดยผู้เล่นระบบดังกล่าวก็จะเหมือนกับได้ร่วมเดินทางกับคิวริออสซิตี้ ไปบนดาวอังคารด้วย

ฮือฮา รถหุ่นยนต์"นาซา"ฝาก"รอยเท้าไว้บนดาวอังคาร"เลียน"นีล อาร์มสตรอง"เหยียบดวงจันทร์ : มติชนออนไลน์


B5 - War Room Falkman

 

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงทุ่ม 100 ล้านบาท พัฒนาสนามบิน เชื่อมคุนหมิง

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:00:36



เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายดำรง คล่องอักขระ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 14 ปี ของสนามบินว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงมีสายการบินภายในประเทศรวม 5 สายการบินและทำการบินระหว่างประเทศจำนวน 1 สายการบิน คือจากเชียงราย-คุนหมิง มณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน สัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน ทำให้ท่าอากาศยานมีการให้บริการบินเฉลี่ยวันละ 18 เที่ยวบิน ทั้งนี้ ในปี 2555 จนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่าอากาศยานมีสถิติจำนวนเที่ยวบินเข้าออกรวม 5,255 เที่ยว มีผู้โดยสารไปใช้บริการจำนวน 698,916 คน สินค้าเข้าออกรวม 3,584,669 ตัน

นายดำรงกล่าวว่า สำหรับปี 2556 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับงบประมาณในการดำเนินการหลายโครงการ ได้แก่ ปรับปรุงระบบไฟฟ้าสนามบิน 35,576,200 บาท ก่อสร้างขยายจุดเลี้ยวหัวท้ายทางขึ้นลงหรือรันเวย์สนามบินบริเวณหัวทางวิ่ง 21 จำนวน 21,000,000 บาท จ้างสำรวจออกแบบและปรับปรุงห้องน้ำให้บริการแก่ผู้โดยสารและผู้ไปใช้บริการ 20,000,000 บาท ก่อสร้างขยายระเบียงย้ายพร้อมติดตั้งสะพานเทียบเครื่องบิน บริเวณหลุมจอดอากาศยานหมายเลข 4 จำนวน 16,000,000 บาท ซ่อมหลังคาอาคารผู้โดยสาร 9,900,000 บาท ปรับปรุงห้องน้ำภายในห้องผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศและระหว่างประเทศรวมทั้งห้องโถงผู้โดยสาร 4,355,000 บาท ซื้อพร้อมติดตั้งทดแทนและปรับปรุงอุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือซีซีทีวี 3,717,000 บาท บันไดเลื่อน 2 ตัว รวม 2,000,000 บาท และก่อสร้างถังตกตะกอนขนาด 20 ลูกบาศก์เมตร 800,000 บาท

"นอกจากนี้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดแผนพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย แผนระยะสั้นระหว่างปีงบประมาณ 2557-2558 ประกอบด้วยก่อสร้างจุดเลี้ยวบริเวณกึ่งกลางทางวิ่ง 21 งบประมาณ 15,000,000 บาท จ้างศึกษาและจัดทำแผนแม่บทท่าอากาศยาน 15,000,000 บาท และปี 2558 ประกอบด้วยสร้างจุดเลี้ยวบริเวณกึ่งกลางทางวิ่ง 03 งบประมาณ 15,000,000 บาท ก่อสร้างจุดเลี้ยวหัวทางวิ่ง 03 งบประมาณ 21,000,000 บาท" นายดำรงกล่าว

นายดำรงกล่าวด้วยว่า สำหรับการให้บริการการบินของ จ.เชียงราย ยังถือว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น และล่าสุดสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ซึ่งมีสัญญาทำการบินเชียงราย-คุนหมิง ได้สิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ ก็ได้ขยายทำการบินออกไปอีกจากเดือนตุลาคม 2555-มีนาคม 2556 แล้ว และจากการเดินทางไปประชาสัมพันธ์หรือโรดโชว์ที่ประเทศจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ก็พบว่าในอนาคตอาจจะมีแนวโน้มเพิ่มสายการบินอื่นๆ ไปยังประเทศจีนมากขึ้นอีก ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า โครงการคิงส์โรมันฯ ในเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีการก่อสร้างสนามบินนั้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เพราะเป็นเพียงสนามบินขนาดเล็กและการจะเปิดสายการบินนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนและอื่นๆ อีกมากมาย

ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงทุ่ม 100 ล้านบาท พัฒนาสนามบิน เชื่อมคุนหมิง : มติชนออนไลน์

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “แกมี” (GAEMI)" [/SIZE]

ฉบับที่ 18 ลงวันที่ 05 ตุลาคม 2555

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=left> เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (5 ต.ค. 2555) พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 750 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 14.5 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 115.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ของประเทศไทย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2555 บริเวณพื้นที่ตามเส้นทางเดินพายุและพื้นที่ใกล้เคียง มีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ กับมีลมแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในช่วงระยะนี้


สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2555 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-6 ตุลาคม 2555 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกและเริ่มมีอากาศเย็นลง

ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.
(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง
(นายสมชาย ใบม่วง)
รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
</TD></TR></TBODY></TABLE>


B5 - War Room Falkman

 

จีนเนื้อเต้น หลังนักเที่ยวบันทึกภาพ"กระแสคลื่นมหาชนอัดแน่น"กำแพงเมืองจีน"ครั้งประวัติการณ์"(ชมภาพ)

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:25:04 น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดานักท่องเที่ยวจีนได้มีโอกาสได้บันทึกภาพกระแสมหาชนจีนอัดแน่นเที่ยวกำแพงเมืองจีน ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยภาพหลายภาพถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์เวยป๋อ และมีการชมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก และถูกเรียกว่าเป็นภาพ"การเข้าคิวที่ยิ่งใหญ่ของจีน"

​

รายงานระบุว่า สำหรับชาวจีน การได้เที่ยวชมกำแพงเมืองจีนถือเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ซึ่งครั้งหนึ่งประธาน"เหมา เจ๋อตุง"เคยบอกว่า ใครก็ตามถ้าไม่ได้ไปเห็นกำแพงจีน ถือว่ายังไม่ใช่คนจีนที่ดี และส่งผลให้ทุกปีจะมีชาวจีนเดินทางไปชมสถานที่แห่งนี้นับล้านคน และในช่วงสัปดาห์นี้ การไปเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีนในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ จึงเท่ากับเป็นการเข้าแถวเพื่อฝากรอยเท้ายังสถานที่ประวัติศาสตร์ ที่ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตอันน่าจดจำสำหรับคนจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังถือว่า เป็นปีที่มีนักเที่ยวหนักมากกว่าทุกปี เพราะทางการได้ยกเว้นการเก็บค่าทางเดินรถมอเตอร์เวย์ ส่งผลให้ผู้คนแห่ขึ้นมาชมกำแพงเมืองจีนมากกว่าปกติ โดยทางหลวง 24 สายทั่วปท.ได้กลายเป็นลานจอดรถมโหฬาร เมื่อมีผู้คนกว่า 86 ล้านคนขับรถมายังทางดังกล่าวเพื่อชมกำแพงเมืองจีน ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวจีนประเมินว่า ปีนี้มีจีนมีนักเที่ยว 362 ล้านคนออกมาเที่ยวในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์

<!--อ่านล่าสุด คน--><!-- FB COMMENT --><!-- <tr> <td align="right" valign="top" colspan='2'>
<fb:comments href="" num_posts="3" width="560"></fb:comments> <script src="http://connect.facebook.net/en_US/all.js#appId=186740354700554&xfbml=1"></script> </td> </tr> --><!-- END FB COMMENT --><!-- Start ADS Google Adsense 468x60-->


จีนเนื้อเต้น หลังนักเที่ยวบันทึกภาพ"กระแสคลื่นมหาชนอัดแน่น"กำแพงเมืองจีน"ครั้งประวัติการณ์"(ชมภาพ) : มติชนออนไลน์

B5 - War Room Falkman

 

สบอช.แถลงพายุ'แกมี'ยังไม่กระทบไทย-ฝนหนักพรุ่งนี้

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2555 14:17น.

สบอช.แถลงพายุ'แกมี'ยังไม่กระทบไทย-ฝนหนักพรุ่งนี้ : INN News



เลขาธิการ สบอช. แถลง พายุแกมี ยังไม่ส่งผลกระทบไทย พร้อมเตือน ประชาชน 12 จังหวัด ระวังฝนตกหนักพรุ่งนี้ ขณะที่ "รอยล" ยัน เตรียมพร้อมรับมือ "พายุแกมี" แล้ว มั่นใจ ไม่ถึงขั้นต้องอพยพ

นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงานนโยบายบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช. แถลงว่า พายุแกมี ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยและเมื่อดูจากเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลดาวเทียม ก็ได้มีการวิเคราะห์ว่า พายุจะเริ่มเข้าไทย ในวันจันทร์ที่ 8 ต.ค.นี้ ทำให้มีฝนตกหนักที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยจะต้องพิจารณาจากความเร็วลมพายุเป็นหลัก เพราะหากมีความกดอากาศต่ำ หรือ ร่องฝนรวมอยู่ด้วย ก็อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อ่าวไทยได้ และในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น. จะมีฝนตกหนัก ขอให้ประชาชนใน 12 จังหวัด คือ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง สตูล กระบี่ และตรัง ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์
ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้นั้น เพราะอัตราความเร็วและการเคลื่อนตัวของพายุมีความแตกต่างกันตลอดเวลา ซึ่งต้องใช้การคาดการณ์แบบวันต่อวัน โดยทุกจังหวัดเตรียม ศูนย์บัญชาการส่วนหน้า ซึ่งมีศูนย์ให้ข้อมูล 24 ชั่วโมง โดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง


'รอยล' ยันพร้อมรับมือพายุแกมีมั่นใจไม่ถึงขั้นอพยพ

นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ รอบนอกและในคันกั้น ซึ่งทางกบอ. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ ถ้ายังลดระดับน้ำได้ คงไม่ต้องถึงขั้นอพยพ โดยตอนนี้ ลดลงไปได้แล้ว ร้อยละ 10 ล่าสุด น่าจะลดลงที่ 15-16 ซ.ม. จึงเชื่อมั่นว่า คงไม่ถึงขั้นต้องอพยพ กล่าวคือ มีการเตรียมการไว้พร้อมแล้ว เพื่อรับกับพายุแกมี
ส่วนจังหวัดอื่นนั้น นายรอยล ระบุว่า จะต้องเฝ้าระวังราชบุรีและเพชรบุรี เป็นพิเศษ พร้อมต้องเฝ้าระวัง บุรีรัมย์ นครราชสีมา จันทบุรี ระยอง นครนายก และฉะเชิงเทรา

B5 - War Room Falkman

 

คลองภาษีเจริญตื้นเขินปชช.เตรียมรับมือพายุ

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2555 17:08น.



จากการลงพื้นที่สำรวจตลอดแนวคลองภาษีเจริญ ซึ่งรับน้ำจากคลองทวีวัฒนา พบว่า สภาพลำคลองมีขนาดกว้าง บริเวณริมคลองมีความตื้นเขิน น้ำมีกลิ่นเหม็น และมีขยะสิ่งปฏิกูลลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กระแสน้ำไหลได้ช้ากว่าคลองทวีวัฒนา

โดย นายพิทักษ์ ปายะฤทธิ์ ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองภาษีเจริญ กล่าวแสดงความรู้สึกห่วงและหวั่นว่าน้ำจะท่วมจากอิทธิพลของพายุแกมี เนื่องจากหากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ปริมาณน้ำในคลองจะเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมบ้าน จึงต้องเร่งเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้น เพราะทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่ที่ผ่านมาก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่พยายามขุดลอกคูคลอง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาแล้ว

B5 - War Room Falkman

 

เตือนจังหวัดใต้ตอนบน รับมือ"แกมี"เปลี่ยนเส้นทาง

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 14:16 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
" รอยล" เตือน “เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบฯ” เสี่ยงสูง หลังพายุ “แกมี” เปลี่ยนเส้นทางวกผ่านอ่าวไทย ประสานให้กองทัพบกและคมนาคม เตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำ อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 14 คณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ ในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือพายุแกมี ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กองทัพเรือ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้ารายงานผลการดำเนินงานเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ตัวแทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ได้แสดงความกังวลเรื่องการเปลี่ยนทิศทางของพายุแกมี ที่ปรับตัวลงมาทางใต้มากขึ้น และจะมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้าน นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการ ฯ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของพายุ ที่มีการเคลื่อนลงต่ำอย่างรวดเร็วและจะวกผ่านอ่าวไทย ทำให้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นภาคใต้ตอนบน โดยจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอาจมีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อวัน

นายรอยล กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ อาจกระทบต่อเส้นทางคมนาคมลงสู่ภาคใต้ ซึ่งมีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียว ทางคณะทำงานจึงมอบหมายให้ตัวแทนจากกองทัพบกโดยทหารช่าง และกระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวง เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมกำลังพล และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงเส้นทางสำรองในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และเตรียมการอพยพคนในจุดเสี่ยงต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นทางพายุมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการที่พายุ ”แกมี” วิ่งผ่านอ่าวไทย แล้วจะเพิ่มพลังกลายเป็นพายุลูกใหม่หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครบอกได้ ต้องรอดูสถานการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ อีกครั้ง

นายรอยล กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และกทม. ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเหมือนเดิม โดยในวันที่ 8-10 ต.ค. จะยังคงมีปริมาณฝนตกทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการรับมือแล้วโดยเฉพาะในฝั่งตะวันออกของกทม. และจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังต่าง ๆ

เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าเมื่อพายุหรือหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านทะเล แล้วจะทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จได้ นายรอยล กล่าวว่า เป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากความยาวของคลื่นในทะเลไม่ยาวมาก และไม่มีปริมาณน้ำเหนือลงมาปะทะ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นถึง 15 เซนติเมตร.

B5 - War Room Falkman

 

ลำพระเพลิงปล่อยน้ำเต็มพิกัด รับพายุแกมี

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 11:46 น.


<!-- /.images-list-items --><EMBED height=370 type=application/x-shockwave-flash width=620 src=http://www.youtube.com/v/UMpQwZKYXiQ?version=3&hl=en_US&rel=0 wmode="transparent" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
<!-- /.images-list-items youtube_embed -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper --><!-- /.youtube_thumbnail --><!-- /.select-item -->เขื่อนลำพระเพลิงเร่งระบายเต็มพิกัด หวังเปิดพื้นที่รับน้ำจากพายุ"แกมี" ป้องกันปัญหาล้นทะลักท่วมพื้นที่ตอนล่าง พร้อมกับได้ประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่รับน้ำที่อาจจะมีผลกระทบบ้าง ให้เตรียมรับมือ

<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->วันนี้ (5 ต.ค.) นายประเทือง วันดี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง สั่งการให้เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพิ่มอัตราการพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงเต็มพิกัดจากวันละ 1.9 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 2.7 ล้าน ลบ.ม. เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณน้ำ จากปริมาณน้ำฝนที่คาดการณ์ว่ามีฝนตกและไหลลงสู่อ่างเป็นจำนวนมากในช่วง 2 – 3 วันหลังจากนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าอิทธิพลของพายุแกมี จะส่งผลทำให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงจังหวัดต่างๆในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกหนักตั้งตัวนี้ 5 ต.ค. ไปจนถึงวันที่ 8 ต.ค.นี้

นายประเทือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อยู่ที่ 101.5 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมด 110 ล้านลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 92 ของความจุอ่างสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับในช่วงระหว่างวันที่ 5 - 8 ต.ค. ทางกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันจากอิทธิพลของพายุแกมี จึงจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเต็มพิกัดจากวันละ 1.9 ล้าน ลบ.ม. เป็น 2.7 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นการปล่อยน้ำเต็มอัตรา เพื่อพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเตรียมรับมือกับมวลน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลลงสู่อ่างป้องกันปัญหาน้ำล้นสปิลเวย์ เข้าสร้างความเสียหายกับบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชน

โดยปริมาณน้ำที่พร่องออกจากอ่างเก็บน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะระบายลงคลองส่งน้ำ เพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย และนำไปกักเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำลำสำลาย ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง วันละ 1 ล้าน ลบ.ม. และปริมาณน้ำอีก 1.7 ล้าน ลบ.ม. จะระบายลงสู่ลำคลองธรรมชาติที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยเนื่องจากยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ ซึ่งหากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ท้ายอ่างก็จะลดการระบายน้ำในคลองธรรมชาติลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงอีก 2 – 3 วันนี้ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงจะสามารถรองรับมวลน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำที่จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุแกมีอีกประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการรับมวลน้ำก้อนนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ในการเพิ่มระดับการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในครั้งนี้ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่รับน้ำทั้งในเขต อ.ปักธงชัย และ จ.นครราชสีมา ได้เตรียมรับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งอาจจะมีผลนำเอ่อล้นตลิ่งคลองส่งน้ำซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบบ้างเพียงเล็กน้อย ก็ได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการแจ้งเตือนเพื่อเตรียมรับมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมงทางตอนบนของภาคและแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลางโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนกลางนของภาคและแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบนโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคตะวันออกและบริเวณชายฝั่ง</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคใต้ ชายฝั่งทะเลอันดามันและบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 5 : ​

</TD><TD> พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 750 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม.และ คาดว่า พายุนี้จะทวีกำลังแรงขึ้น </TD></TR></TBODY></TABLE>

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

วิกฤตหนัก! นายกฯกรีซยอมรับ รัฐบาลเหลือเงินใช้ถึงสิ้นเดือนพ.ย.เท่านั้น เตรียมตัวล้มละลาย​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์​

</TD><TD>

5 ตุลาคม 2555 16:39 น.​

</TD><TD>

[td]​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000122381</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>

​

<TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 500px" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD width=500>
</TD></TR><TR><TD>

อันโตนิส ซามาราส​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสเผยวันนี้ (5) ว่า รัฐบาลกรีซเหลืองบประมาณสำหรับใช้ในการบริหารประเทศได้จนถึงเดือนหน้าเท่านั้น พร้อมย้ำรัฐบาลเอเธนส์ไม่อาจร้องขอให้ประชาชนของตนยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจได้มากกว่าที่เป็นอยู่

นายกรัฐมนตรีกรีซเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวัน “ฮันเดิลสบลัตต์” ของเยอรมนี โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ประเทศของตนใกล้ที่จะก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว หลังจากเงินคงคลังที่เหลืออยู่ขณะนี้สามารถใช้บริหารประเทศได้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น และทางรัฐบาลก็ไม่สามารถร้องขอให้ประชาชนยอมรับกับมาตรการรัดเข็มขัดใดๆเพิ่มเติมอีก เนื่องจากที่ผ่านมาชาวกรีซต้องระทมทุกข์จากมาตรการรัดเข็มขัดต่างๆมามากเพียงพอแล้ว

ซามาราสย้ำว่า กรีซต้องการระยะเวลามากขึ้นในการตัดลดค่าใช้จ่ายต่างๆตามเงื่อนไขเงินกู้ ที่กำหนดโดยบรรดาประเทศเจ้าหนี้ ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่า กรีซจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อถึงช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เงินที่รัฐบาลกรีซมีอยู่ในมือหมดลง

“ที่ผ่านมา เราได้ทำอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐและการขาดดุลงบประมาณ มาตรการรัดเข็มขัดขนานใหญ่ที่เราบังคับใช้กับประชาชนของเราก่อนหน้านี้ มันไม่ต่างอะไรกับบาดแผลที่ลึกจนถึงกระดูกของเราแล้ว ซึ่งหมายความว่า เราคงจะไม่สามารถออกมาตรการรัดเข็มขัดใดๆเพิ่มเติมได้อีก” ซามาราสกล่าว

ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า กรีซต้องการเงินเร่งด่วน 31.5 พันล้านยูโร(ราว 1.25 ล้านล้านบาท) จากโปรแกรมช่วยเหลือครั้งใหม่ของอียู-ไอเอ็มเอฟเพื่อให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย แต่ดูเหมือนอียูและไอเอ็มเอฟจะยังคงไม่พอใจกับผลการตัดลดค่าใช้จ่ายของกรีซ และยังหวังให้รัฐบาลเอเธนส์บังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่ “เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม” กับประชาชนของตนก่อน จึงจะพิจารณาปล่อยเงินช่วยเหลือดังกล่าว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ประเทศเราอาจจะเหมือนประเทศกรีซเพราะการที่ไม่มีวินัยทางการเงินการคลัง การใช้จ่ายงบประมบเกินตัวและปัญหาการคอรัปชั่น จะนำมาซึ่งสภาวะเศรษฐกิจที่เหมือนกรีซ

 

ปากช่อง เช้านี้ความมืดปกคลุมแต่เช้ามืด มืดทุกทิศทาง จนถึง 9.20 ฝนเริ่มโปรยลงมา ตอนนี้ 9.47 จัดหนักเลยครับ มั่นใจว่านี้เป็นฝนจากแกมี เป็นส่วนของปีกพายุ ซึ่งตอนนี้ใจกลางพายุเปลี่ยนลงไปทางอ่าวไทยแล้ว ถึงกระนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าฝนจะลงติดต่อกันตลอดทั้งวันทั้งคืน คือหยุดบ้างตกบ้าง บ่อของผมก็จะมีน้ำเต็มจนล้นในวันสองวันนี้แหละ ตอนนี้เหลืออีก 1 เมตรก็จะเต็มบ่อ จากนั้นก็จะล้นไปหาบ่อของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน บ้านผมอยู่สูงกว่า แทบจะอยู่บนยอดเนินไม่มีวันที่น้ำจะท่วม น้ำจะล้นหลากลงไปตามทางที่ลาดต่ำสู่ทิศตะวันตก ตงไหนต่ำมันก็จะหลากลงทางนั้น แล้วมันจะไปรวมกันที่ลำตะคอง แล้วไหลลงสู่เขื่อลำตะคอง ลำตะคองแรกเป็นลำน้ำ คือคลองหรือแม่น้ำธรรมชาติ ลำตะคองหลังเป็นชื่อเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดของโคราช อยู่ติดถนนมิตรภาพ ใครขึ้นอีสานต้องเห็นเขื่อนนี้ หลายท่านแวะกินข้าวร้านอาหารที่ตั้งริมขอบเขื่อน ก็คือข้างถนนมิตรภาพนี่แหละ วิวทิวทัศน์สวยมาก

ข่าวจากอำเภอโชคชัยรายงานว่าที่นั่นฝนลงหนัก แล้วก็หายไป แดดออก สักครู่ก็ฝนลงอีก เอ๊ะ ฝนแบบนี้มันฝนอะไรหว่า

ตอนนี้ปากช่องมีเสียงฟ้าคำรามกึกก้อง นี่เป็นลักษณะฝนพายุแน่นอน

 

ชาวจีนนับล้าน แห่เที่ยวชมกำแพงเมืองจีน ช่วงวันหยุดยาว

เขียนโดย nuntarat โพสต์เมื่อ วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555



MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพผู้คนนับล้านคนบนกำแพงเมืองจีน ในช่วงวันหยุดยาวฉลองวันชาติของจีน ซึ่งกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ จนถูกตั้งชื่อว่า “ช่วงแถวยาวที่สุดของจีน” (Great Queue of China)
ทั้งนี้ผลจากการแห่มาเยือนของประชาชน นอกจากที่กำแพงเมืองจีนจะเต็มไปด้วยผู้คนนับล้านแล้ว บริเวณถนนหลวงกว่า 24 สาย ก็แปรสภาพเป็นลานจอดรถของประชาชนกว่า 86 ล้านคน โดยรายงานระบุค่าประมาณของจำนวนประชากรที่ออกท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดาวว่ามีประมาณ 362 ล้านคน
Photo:: CEN,Weibo

ชาวจีนนับล้าน แห่เที่ยวชมกำแพงเมืองจีน ช่วงวันหยุดยาว | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง
Mthai News

 

สถานการณ์น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรที่พัทยากลับสู่ภาวะปกติแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2555 09:59 น.

เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา เมืองพัทยาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กว่า 1 ชั่วโมง จนทำให้น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร บนถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย พร้อมด้วยหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเมืองพัทยา เร่งระดมกำลังช่วยเหลือกว่า 100 นาย สูบน้ำออกจากพื้นที่
นายศุภชัย แสนยุติธรรม หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังใช้เวลา 3 ชั่วโมง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวหากมีฝนตกมากเกิน 60 มิลลิเมตร การระบายน้ำจะทำไม่ทัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และพร้อมดำเนินการทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้นอีก

Manager Online - สถานการณ์น้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรที่พัทยากลับสู่ภาวะปกติแล้ว

 

หลังจากรอคอยน้ำมานาน

 

เขื่อนกาญจน์เตือนคนอยู่ท้ายน้ำพร้อมรับมือ"แกมี"

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2555 เวลา 23:30 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เผยเขื่อนกาญจน์เตือนคนอยู่ท้ายน้ำต้องปล่อยน้ำเพิ่มพร้อมรับแกมี

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายดิลก ธโนศวรรย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการว่า พายุแกมี จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และกำลังเคลื่อนตัว ขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ จากนั้น จะเคลื่อนตัวผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังแรง ทำให้ช่วงวันที่ 5 ถึงวันที่ 8 ตุลาคม นี้ ประเทศไทยจะมีฝนตกมากขึ้น และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เขื่อนวชิราลงกรณ จึงจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำ ที่จะเพิ่มมากขึ้น ตามแผนวิเคราะห์ สถานการณ์น้ำ และจัดสรรน้ำ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการแพพัก รีสอร์ท กระชังปลา ให้เตรียมพร้อม รับปริมาณน้ำ ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงดังกล่าว.

B5 - War Room Falkman

 

"แกมี" ถล่มแหลก โคราชระทมจมบาดาลแล้ว

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 09:48 น.


<!-- /.images-list-items --><EMBED height=370 type=application/x-shockwave-flash width=620 src=http://www.youtube.com/v/9m9zaKiDMeA?version=3&hl=en_US&rel=0 wmode="transparent" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
<!-- /.images-list-items youtube_embed -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->ทะลักท่วมหลายจุดจราจรติดหนึบเป็นอัมพาตทั่วเมือง ถนนสายหลักหลายสายระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม.

<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และตำบลใกล้เคียงอย่างหนัก ถนนสายหลักหลายสายมีระดับน้ำท่วมขังสูงตั้งแต่ 10 ซม.ไปจนถึง 60 ซม. โดยเฉพาะถนนเดชอุดม , สืบสิริ , มุขมนตรี , ถนนสายราชสีมา – โชคชัย บริเวณแยกหัวทะเล และถนนสุรนารายณ์ระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50-60 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้

ทั้งนี้ปริมาณน้ำท่วมขังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนต้องใช้เส้นทางสัญจรผ่านไปมาอย่างหนาแน่น ทำให้มีรถเล็กอาทิรถจักรยานยนต์ และรถเก๋งหลายสิบคันต้องฝ่าระดับน้ำที่ท่วมขังจนเป็นเหตุให้ต้องจอดเสียอยู่บนถนนหลายสิบคันการจราจรติดขัดอย่างหนัก

ขณะที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ออกกระจายลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเพื่อกำจัดเศษมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่อุดตัดท่อระบายน้ำเพื่อเปิดทางน้ำน้ำไหลระบายได้อย่างสะดวกและให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเที่ยงวันวันเดียวกัน.

B5 - War Room Falkman